อาการจุกเสียดท้องยืดเยื้อที่เกิดขึ้นมากกว่า 2 วันในหนึ่งสัปดาห์และดำเนินมาเรื่อยๆเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือนอาจจะเป็นผลมาจากโรคการไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมาหลอดอาหาร หรือที่เรียกกันว่า GERD(กรดไหลย้อน) โรคกรดไหลย้อนถือเป็นโรคที่สร้างความรำคาญให้แก่ผู้คนมากมายทุกวันนี้ มันเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (LES) ไม่สามารถปิดได้อย่างสนิท ส่งผลให้กล้ามเนื้อนั้นปล่อยให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลกลับไปยังหลอดอาหารซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมระหว่างลำคอกับกระเพาะอาหาร การไหลกลับของกรดในกระเพาะสามารถทำให้เกิดการจุกเสียดท้องอยู่บ่อยๆและส่วนใหญ่แล้วจะมีอาการกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป
ถึงแม้ว่าผู้ที่มีอาการจุกเสียดหลายๆคนจะรายงานว่าอาการของโรค GERD นั้นจะเกิดขึ้นตอนกลางคืนในขณะนอน แต่ก็ยังมีรายงานจากคนอื่นๆที่มีอาการเกิดขึ้นในช่วงกลางวัน โดยเฉพาะหลังจากกินอาหารมื้อใหญ่หรืออาหารที่มีปริมาณกรดหรือไขมันสูง แพทย์แนะนำว่าการนอนหลับโดยที่หัวเตียงยกขึ้นประมาณ 6 นิ้วจะช่วยป้องกันอาการกรดไหลย้อนในตอนกลางคืนได้
สำหรับอาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับโรคกรดไหลย้อนนั้นรวมถึงอาการแสบในลำคอ เจ็บหน้าอก การกลืนยาก รู้สึกเจ็บเมื่อกลืน เสียงแหบ ระคายเคืองลำคอ รู้สึกถึงรสขมหรือเปรี้ยวในปาก หรือแม้แต่อาการบวมของคอและหลอดอาหาร
สำหรับอาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับโรคกรดไหลย้อนนั้นรวมถึงอาการแสบในลำคอ เจ็บหน้าอก การกลืนยาก รู้สึกเจ็บเมื่อกลืน เสียงแหบ ระคายเคืองลำคอ รู้สึกถึงรสขมหรือเปรี้ยวในปาก หรือแม้แต่อาการบวมของคอและหลอดอาหาร
มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจำไว้เลยว่าอาการเจ็บบริเวณหน้าอกที่เกี่ยวข้องกับโรคกรดไหลย้อนนั้นสามารถแสดงอาการคล้ายๆกับโรคหัวใจ ยกตัวอย่างเช่น ทั้งกรณีของโรคกรดไหลย้อนและโรคหัวใจสามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกซึ่งอาจจะขยายไปถึงแผ่นหลัง แขนและคอ การเพิกเฉยต่ออาการเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่โง่เขลาและอันตรายมาก สาเหตุของการเจ็บหน้าอกนั้นจะต้องถูกพิเคราะห์โดยแพทย์หรือผู้ให้บริการทางสาธารณสุข การคาดเดาว่าการเจ็บหน้าอกเป็นผลมาจากการจุกเสียดท้องโดยที่ไม่มีคำยืนยันจากแพทย์นั้นไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย
การสูบบุหรี่ คาเฟอีน ฮอร์โมน ช็อกโกแลต สะระแหน่ การใส่เสื้อผ้ารัดๆ การใช้ยาบางชนิด ความอ้วน การตั้งครรภ์ล้วนแล้วแต่ถูกจัดว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคกรดไหลย้อน โดยสิ่งกระตุ้นเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงหรือกระทั่งอาจควบคุมได้ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่จะจัดการกับโรคกรดไหลย้อนด้วยการปรับวิถีการใช้ชีวิต
การปรับวิถีการใช้ชีวิต อาหารการกินและการใช้ยาสามัญนั้นถือเป็นแนวทางแรกๆของการรักษาที่ถูกเสนอโดยผู้บริการทางสาธารณสุขหลังจากที่การวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อนได้รับการยืนยัน อย่างไรก็ตาม ถ้าวิธีเหล่านี้ไม่สามารถควบคุมอาการได้ อาจจะต้องมีการสั่งยาเฉพาะที่ต้องมีใบสั่งยากำกับ การผ่าตัดมักจะถูกมองว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายในการจัดการกับโรคนี้
โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่อาจจะก่อให้เกิดผลในระยะยาวได้ถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้รักษา มันมีทางเลือกการรักษามากมายที่ไม่มีผลข้างเคียงและสามารถกำหนดโรคนี้ได้ก่อนที่จะมีโอกาสเป็นโรคร้ายในระยะยาว
ขอขอบคุณ
แหล่งข้อมูลจาก http://www.joelookyoung.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น